คอลลาเจนชนิดที่ 2``

 คอลลาเจนชนิดที่ 2 หรือ คอลลาเจนไทพ์ทู (UC II) เป็นพื้นฐานของกระดูกอ่อนข้อและกระดูกอ่อนโปร่งแสง ประกอบเป็น 50% ของโปรตีนทั้งหมดในข้อและ 85-90% ของคอลลาเจนของกระดูกอ่อนข้อ


คอลลาเจนชนิดที่ 2 ก่อเป็นเส้นใยฝอยได้ เครือข่ายคอลลาเจนเส้นใยฝอยนี้ทำให้กระดูกอ่อนดักการสะสมโปรตีโอไกลแคนตลอดจนให้ความทนแรงดึงต่อเนื้อเยื่อ



คอลลาเจนชนิดที่ 2 หรือ คอลลาเจนไทพ์ทู เป็นคอลลาเจนชนิดเดียวกับที่พบในเซลล์กระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อ แตกต่างจากคอลลเจนที่พบในเซลล์ผิวหนัง ซึ่งจะเป็นคอลลาเจนชนิดที่ 1, 3 และ 4 (Collagen Type 1, 3 และ 4) คอลลาเจนไทพ์ทู จะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของส่วนประกอบที่อยู่ในข้อ โดยกระตุ้นให้มีการสังเคราะห์เซลล์ใหม่เพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มระดับของกรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic acid) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของน้ำหล่อเลี้ยงในข้อ และยังยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ย่อยสลายน้ำหล่อเลี้ยงข้อ มีคุณสมบัติช่วยลดอาการปวดข้อและข้อยึดได้ ทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายดีขึ้น

ลักษณะ

คอลลาเจนไทพ์ทู (Collagen Type II) เป็นคอลลาเจนที่พบได้ในกระดูกอ่อนและหมอนรองกระดูกสันหลัง ซึ่งทำหน้าที่รองรับน้ำหนักและให้ความแข็งแรงแก่ข้อต่อในขณะที่มีการเคลื่อนไหว โดยปกติแล้วในกระดูกอ่อนจะประกอบด้วยโครงข่ายของเส้นใยคอลลาเจนไทพ์ทู รวมตัวกับ กรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic acid) และ โปรตีโอไกลแคน (Proteoglycan) ได้แก่ แอกกริแคน (Aggrecan) ซึ่งมีไกลโคอะมิโนไกลแคน (Glycoaminoglycans) คือ คอนโดอิติน ซัลเฟต(Chondroitin Sulfate) และเคอราแทน ซัลเฟต (Keratan Sulfate) เป็นส่วนประกอบ การศึกษาพบว่าในผู้ที่น้ำหนักตัวมาก และผู้สูงอายุ กระดูกอ่อนชนิด Articular Cartilages ซึ่งมีความทนต่อแรงกระแทกจะเริ่มเสื่อมลงโดยเฉพาะที่ข้อต่อที่รับน้ำหนักเช่นข้อเข่าและสะโพก จึงมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับภาวะการเกิดข้อเสื่อม ข้ออักเสบอลลาเจนไทพ์ทู (Collagen Type II) มีการศึกษาทางคลีนิคพบว่าสามารถช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของส่วนประกอบที่อยู่ในข้อ โดยกระตุ้นให้มีการสังเคราะห์เซลล์ใหม่เพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มระดับของ กรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic acid) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของน้ำหล่อเลี้ยงในข้อ และยังยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ย่อยสลายน้ำหล่อเลี้ยงข้อ จึงช่วยลดอาการปวดข้อและข้อยึดทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายดีขึ้น


การวิจัยระดับคลินิคโดย Crowly D.C. และคณะในปี ค.ศ.2009 พบว่าการรับประทานคอลลาเจนไทพ์ทู ขนาด 40 มิลลิกรัมต่อเนื่องกันเป็นเวลา 90 วัน มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการของภาวะโรคข้ออักเสบเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับการรับประทาน กลูโคซามีน 1,500 มิลลิกรัมและ คอนดรอยติน 1,200 มิลลิกรัมโดยพิจารณาจากอาการแสดงต่างๆของผู้ที่เจ็บป่วยโรคข้อ เช่น ความสะดวกในการเคลื่อนไหวร่างกาย[1]


ถัดมาในปี 2012 Schauss A.G. และคณะ ได้ทำการศึกษาผลของคอลลาเจนไทพ์ทู ที่สกัดได้จากกระดูกช่วงอกของไก่ ซึ่งเป็นคอลลาเจนชนิดที่ผ่านกระบวนการย่อยด้วยเอนไซม์ นำมาทดสอบผลต่อโรคข้อเข่าหรือสะโพกเสื่อม ซึ่งการวิจัยเป็นแบบ Randomized double-blind, placebo-controlled study โดยทำการวิจัยในผู้ป่วยอาสาสมัครจำนวน 80 คนที่มีอาการของโรคข้อเข่าหรือสะโพกเสื่อม และมีอาการเจ็บปวดข้อ กลุ่มหนึ่งให้รับประทานคอลลาเจนไทพ์ทู 2 กรัมต่อวัน และอีกกลุ่มให้รับประทานยาหลอก ติดต่อกันเป็นเวลา 70 วัน หลังจากนั้นประเมินผลการรักษาด้วยแบบทดสอบดังนี้ VAS Score, WOMAX Score และการประเมินอาการไม่พึงประสงค์จากการรักษา ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มที่รับประทานคอลลาเจนไทพ์ทูจะมี VAS Score และ WOMAX Score ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และไม่มีผลข้างเคียงเกิดขึ้น นอกจากนี้กลุ่มที่รับประทานคอลลาเจนไทพ์ทู ยังมีการใช้ยาแก้ปวด (พาราเซตามอล) เพื่อบรรเทาอาการปวดข้อลดลงเมื่อเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก[2]


ล่าสุดในปี 2013 Lugu J. P. และคณะได้ทำการศึกษาผลของคอลลาเจนไทพ์ทู ชนิดที่เป็นคอลลาเจนที่ยังคงโครงสร้างที่สมบูรณ์ ในกลุ่มอาสาสมัครจำนวน 55 uc ii collagen คนที่มีสุขภาพดี ไม่มีประวัติของโรคข้อเข่าเสื่อมแต่เริ่มมีอาการปวดข้อจากการใช้งานและการออกกำลังกาย ทำการวิจัยเป็นแบบ Randomized double-blind, placebo-controlled study โดยให้รับประทานคอลลาเจนไทพ์ทู 40 มิลลิกรัมต่อวัน ทุกวันต่อเนื่องเป็นเวลา 120 วัน ติดตามผลโดยดูการเปลี่ยนแปลงความยืดหยุ่นของเข่าและวัดค่าการฟื้นตัวจากการปวดเข่าหลังการออกกำลังกาย ผลการทดลองพบว่ากลุ่มที่ทานคอลลาเจนไทพ์ทู มีความยืดหยุ่นของข้อเข่าดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้ทานและยังช่วยลดอาการปวดข้อที่เกิดขึ้นจากการออกกำลังกายอีกด้วย[3]



จากงานวิจัยเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงทางเลือกใหม่ในการดูแลสุขภาพข้อ โดยนำคอลลาเจนไทพ์ทู มาใช้รับประทานเสริม ปัจจุบันมีการศึกษาและสกัดคอลลาเจนไทพ์ทู ทั้งที่อยู่ในรูปของ อันดีเนเจอร์คอลลาเจนไทพ์ทู (Undenatured Collagen Type II) ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่ยังคงโครงสร้างที่สมบูรณ์เอาไว้และ ไฮโดรไลซ์คอลลาเจนไทพ์ทู (Hydrolyzed Collagen Type II) ซึ่งเป็นคอลลาเจนซึ่งผ่านกระบวนการย่อยด้วยเอนไซม์ทำให้มีโครงสร้างที่เล็กลงพร้อมสำหรับการดูดซึม ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมาใช้เพิ่มมากขึ้น [

Comments

Popular posts from this blog

10 สุดยอดครีมกำจัดสิวบนใบหน้า